การชันสูตรพลิกศพ

 ลองนึกย้อนกลับไปในสมัยที่น้องยังไม่ได้เข้าเรียนแพทย์ น้องคงไม่ได้คิดว่า หน้าที่หนึ่งของหมอคือการตรวจศพคนตายแน่เลย เพราะโดยทั่วไปแล้วเราจะเข้าใจกันว่าหมอมีหน้าที่รักษาคน แต่ตอนนี้น้องคงเข้าใจและต้องยอมรับไปโดยปริยายว่าเป็นหน้าที่ของหมอเหมือนกันในการตรวจศพคนตายด้วย   เรื่องราวในหลักวิชาการน้องคงเคยได้เรียนมาแล้วในวิชานิติเวช แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าหลักสูตรแพทยศาสตร์ของเรา มีชั่วโมงและหน่วยกิตที่ให้ในวิชานิติเวชวิทยาค่อนข้างน้อย ทั้งๆที่ในความเป็นจริงเราต้องใช้ความรู้ของวิชานี้ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะแพทย์ในชนบท

           ศพที่น้องจำเป็นต้องชันสูตรพลิกศพคือ การตายที่ผิดธรรมชาติ และการตายโดยอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการตายที่ผิดธรรมชาตินั้นมี 5 ชนิดคือ การตายเนื่องจากการฆ่าตัวตาย การถูกผู้อื่นฆ่า ตายจากอุบัติเหตุ ตายจากถูกสัตว์ขบกัด และการตายโดยไม่ปรากฏเหตุ การตายในลักษณะดังกล่าวหมอต้องชันสูตรพลิกศพ ดังนั้นน้องจึงมีโอกาสที่จะต้องชันสูตรอยู่บ่อยๆ โดยทั่วไปแล้วหลักการชันสูตรเบื้องต้น คือต้องการบอกให้ได้ว่า ผู้ตายคือใคร สาเหตุการตาย พฤติการณ์การตาย เวลาที่ตาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว หมอไม่สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมดหรอก โดยเฉพาะหมอในโรงพยาบาลชุมชน ที่ไม่ได้เป็นหมอเฉพาะทางนิติเวช   

           โดยปกติแล้วเมื่อมีการนำศพมาที่โรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้นำศพมา น้องควรจะถามรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับศพไว้ให้ได้มากที่สุดก่อน โดยถามคร่าวๆว่าเป็นอะไรตาย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ โรคประจำตัว รูปการณ์ของคดี โดยถ้ายิ่งเป็นการตายโดยไม่ปรากฏเหตุ หรือรูปคดีซับซ้อน จำเป็นต้องถามข้อมูลให้ละเอียด อีกประเด็นหนึ่งที่น้องจำเป็นต้องถามเสมอคือ ญาติๆของผู้ตายมีใครติดใจเอาเรื่องหรือไม่ เพราะจะเกี่ยวพันในการฟ้องร้องคดีต่อไป หลังจากได้รายละเอียดจนพอใจแล้ว น้องคงต้องบอกพี่พยาบาลให้มาช่วยน้องชันสูตร โดยต้องเตรียมถุงมือหลายๆคู่ Mask ปิดจมูก, NG tube, syringe แก้ว, ถุงพลาสติก กระดาษและปากกา . . . → Read More: การชันสูตรพลิกศพ

หนีไม่พ้น คนไข้คดี

 ในโรงพยาบาลชุมชน น้องมีโอกาสที่จะต้องเจอกับคนไข้คดีบ่อยมาก บ่อยกว่าการอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เนื่องจากว่าน้องต้องรับผิดชอบดูแลงานห้องฉุกเฉิน และเวรนอกเวลาราชการด้วย ดังนั้นน้องจึงต้องมีโอกาสตรวจและออกใบชันสูตรในคนไข้คดีเสมอ พี่คงไม่กล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับคนไข้คดีให้ฟัง เพราะเชื่อว่าน้องๆได้เรียนในวิชานิติเวชมาแล้ว แต่ขอเน้นย้ำให้ฟังในจุดเล็กๆน้อยๆแต่ก็เป็น Practical point ให้ฟังนะ

อย่างแรกที่สำคัญคือ คนไข้คดีทุกcase น้องต้องเป็นคนตรวจเอง และลงบันทึกบาดแผลเอง เพื่อที่น้องจะได้ออกใบชันสูตรบาดแผลให้ แม้ว่าคนไข้จะไม่มีแผลอะไรมากก็ตาม โดยทั่วไปในโรงพยาบาลเล็กๆ พยาบาลมักจะตรวจคนไข้ง่ายๆให้นอกเวลาราชการ และลงบาดแผลคร่าวๆ และสั่งยาให้กลับบ้านได้เลย แต่ถ้าเป็นคนไข้คดี แล้วพยาบาลมักจะตามแพทย์มาดูแผล หรืออาจจะนัดคนไข้มาใหม่ให้หมอตรวจ ถ้าคนไข้มาดึกมากนอกเวลาราชการ อย่างที่บอกไปแล้วนะว่า น้องต้องมาตรวจเอง ไม่ควรให้พยาบาลตรวจให้ น้องต้องลงมาดูแผลเอง แม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญมากก็ตาม

พี่ก็เคยเจอบางทีเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีชาย 2 คนกินเหล้าและทะเลาะกัน ชกต่อย ไม่มีแผลอะไรมาก มีแต่รอยฟกช้ำ ชกกันซักประมาณตี 1 ตอนประมาณตีหนึ่งครึ่งคนเแรกก็มารพ. พยาบาลก็ตามหมอลงไปดูแผล ก็ไม่มีอะไรมาก ดูเสร็จก็กลับไปนอนต่อ พอตี 2 ก็มาอีกคนหนึ่ง เราเองก็ง่วงนอนรู้สึกหงุดหงิด มันเรื่องอะไรของเรานะต้องมานั่งดูแผล เรื่องไม่เป็นเรื่องของคน 2 ที่ทะเลาะกัน และไม่รู้จักมาพร้อมๆกันด้วย ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ก็ได้แต่บ่นในใจ แต่ก็คงต้องลงมาดูเองอยู่ดี หรือหมอบางคนอาจจะไม่ยอมลงมาดูเลยก็ได้ ให้พยาบาลนัดให้คนไข้มาใหม่ในวันพรุ่งนี้ . . . → Read More: หนีไม่พ้น คนไข้คดี

การบริหารงานในโรงพยาบาลชุมชน

ในโรงพยาบาลชุมชนอย่างที่น้องทราบแล้วว่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลทุกงานทุกฝ่ายในโรงพยาบาล โดยทั่วไปแล้วในโรงพยาบาลชุมชนจะประกอบด้วยฝ่ายต่างๆ ประมาณ 7 ฝ่ายดังนี้ คือ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ฝ่ายการพยาบาล ฝ่ายเภสัชกรรม ฝ่ายชันสูตรสาธารณสุข ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ ฝ่ายสุขาภิบาลและป้องกันโรค ฝ่ายทันตสาธารณสุข ในบางโรงพยาบาลอาจมีฝ่ายพิเศษหรือมีการยุบฝ่ายเข้ารวมกันก็ได้แล้วแต่แต่ละโรงพยาบาล เช่นอาจมีฝ่าย แผนงานและพัฒนา ฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีหัวหน้าฝ่ายเป็นคนดูแลอีกทีหนึ่ง

โรงพยาบาลชุมชนจะมีคณะกรรมการหนึ่งที่เรียกว่าคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลหรือ กกบ. ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่สำคัญ เป็นเหมือนศูนย์บังคับบัญชาในโรงพยาบาล ประกอบด้วยผู้อำนวยการเป็นประธาน แพทย์ทุกคน และมีหัวหน้าฝ่ายต่างๆเป็นกรรมการ และอาจประกอบด้วยเจ้าหน้าที่คนอื่นซึ่งผู้อำนวยการกำหนดให้เป็นกรรมการด้วย คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลจะทำการประชุมกันเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งเมื่อน้องเป็นแพทย์ประจำ จะต้องเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลด้วย น้องอาจจะต้องเข้าร่วมการประชุมด้วย และสามารถเสนอความคิดเห็น ซักถามได้ในฐานะกรรมการ 

นอกจากคณะกรรมการบริหารงานโรงพยาบาลแล้ว ในโรงพยาบาลอาจจะมีคณะทำงานต่างๆอีกหลายคณะ เช่น  คณะกรรมการวิชาการ คณะกรรมการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล คณะกรรมการสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการพัฒนาบริการ เป็นต้น ซึ่งน้องอาจจะได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการให้ไปเป็นกรรมการในบางคณะ หรืออาจได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการด้วยซ้ำ

งานบริหารเหล่านี้นับว่าเป็นงานนอกเหนือจากการตรวจรักษาคนไข้ทั่วไป และเป็นงานใหม่สำหรับน้อง น้องอาจไม่เคยทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมเลย ก็ต้องมาลองทำดูในโรงพยาบาลชุมชน จะนำการประชุม ควบคุมการประชุมอย่างไร ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เหล่านี้พี่ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายนะ อย่างน้อยๆน้องก็จะได้รับการฝึกในเรื่องการบริหารงานไปในตัว เพราะในโอกาสต่อไป ถ้าน้องมีความสามารถหรือรู้เรื่องงานบริหารมาก อาจจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารเอง เช่นเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเองก็ได้นะ . . . → Read More: การบริหารงานในโรงพยาบาลชุมชน