บูชาความรัก

ฉันรักคุณ รักเลือดเนื้อชีัวิตของคุณ รักอย่างเชิดชูบูชา และฉันไม่ประสงค์อะไรนอกจากได้รับรักของคุณ เหตุฉะนั้นฉันไม่ขอรับอะไรที่คุณได้มาซึ่งจะเป็นผลในการทำลายจิตใจของคุณ ความรักของฉันจะต้องไม่ฉุดคุณลงมาเกลือกกลั้วกับสิ่งปฏิกูล มิฉะนั้นรักฉันก็จะเป็นรักที่เห็นแก่ตัว รักอันน่าทุเรศ มันจะเป็นไปได้ละหรือที่เราจะเรียกสิ่งนั้นว่ารักแท้

เงิน ๘๐๐๐ บาท ที่คุณอุตสาห์หามาให้ฉันนั้น คุณได้มาด้วยการสละความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ ด้วยการสละเกียรติยศของคุณ อรรถขา.. ฉันจะรับมันไว้ได้อย่างไร คุณบอกว่าคุณนำเงินก้อนนั้นซึ่งเต็มไปด้วยราคีมาบูชาความรักของเรา รักบริสุทธิ์ผุดผ่องของเราจะยอมรับบูชาด้วยของที่ได้มาจากบาปของเราหรือ? คุณบอกว่าคุณไม่ได้ทำผิดคิดร้ายอะไร เพียงแต่ว่าได้ละความสัตย์สุจริตในหน้าที่เท่านั้น

ยอดรักขา ฉันคิดว่าคุณกำลังจะหลงทางไป คุณดูแลความสัตย์สุจริตในแง่ใดเล่า จึงเห็นไปว่าเป็นสิ่งกระจิ๋วหลิวนิดเดียว จนคุณเองก็รู้สึกว่าไม่ได้ทำผิดคิดร้ายอะไร ฉันนึกออกแล้วว่าคุณดูแลความสุจริตในแง่ไหน คุณบอกฉันว่าใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น ใครๆเขาก็ประพฤติกันทั้งนั้น ดังนั้นคุณจึงไม่เห็นประหลาด

อรรถขา ถ้าทุกคนในโลกนี้ได้ร่ำรวยขึ้น เพราะประพฤติเป็นโจรไปกันหมด ยอดรักของฉันจงเป็นกระยาจกไปแต่ผู้เดียวเถิด ถ้ามันจะทำให้คุณเป็นสัมมาชนต่อไปได้ ถ้าทุกคนจะได้ราชบัลลังค์ ประพฤติดเป็นผู้ร้ายฆ่าคนกันไปหมด ยอดรักของฉันก็จงยอมเป็นคนเข็ญใจไปแต่ผู้เดียวเถิด

จาก: ตอนหนึ่งในหนังสือ เรื่องสั้น “แม่ยอดยุพดี” ในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด . . . → Read More: บูชาความรัก

When you’ve done the best you can

I come to the office each morning and stay for long hours doing what has to be done to the best of my ability. And when you’ve done the best you can, you can’t do any better. So when I go to sleep I turn everything over to the Lord and forget it.

Henry S. Truman (1884-1972)

จาก:   . . . → Read More: When you’ve done the best you can

ธรรมะแห่งอาชีพ

ธรรมะแห่งอาชีพดูจะเป็นคำที่ดูหรูไปสักหน่อย และชวนให้เรานึกถึงคุณธรรม/คุณสมบัติที่พึงมีในอาชีพบางอาชีพ เช่น แพทย์ควรจะมีจรรยาแพทย์ ครูก็ควรมีจรรยาหรือคุณธรรมในความเป็นครู ผู้พิพากษาก็ควรมีธรรมะโดยเฉพาะในเรื่องความยุติธรรม ฯลฯ แต่ถ้าคิดดูให้กว้างกว่านั้น ผมเชื่อนะครับว่า ทุกอาชีพควรจะต้องมีธรรมะแห่งอาชีพนั้นๆ  อย่างน้อยที่สุดก็ต้องซื่อตรงต่ออาชีพนั้นๆ ของตนเอง

สังคมในปัจจุบัน มนุษย์เราต้องพึ่งพาอาศัยกัน ไม่มีใครสามารถอยู่คนเดียวได้ เราต้องมีการติดต่อและพึ่งอาชีพอื่นๆมากมายในทุกๆวัน เช่น เราไปหาซื้ออะไรกินในตอนเที่ยง เราก็ต้องพึ่งพ่อค้าแม่ค้า เรานั่ง taxi กลับบ้าน ก็ต้องพึ่งคนขับรถ taxi ฯลฯ เราก็คงหวังให้พ่อค้าแม่ค้าไม่โกงเรา ขายของที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ในทำนองเดียวกับ taxi เราก็คงหวังให้คนขับ ขับไปให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ไม่ใช่ขับอ้อมไปอ้อมมา โกงมิเตอร์ หรือมีลูกเล่นต่างๆ  ถ้าทุกอาชีพมีคุณธรรมแห่งตนเราคงสบายใจมากขึ้นในการทำอะไร แต่สองตัวอย่างข้างต้นเป็นตัวอย่างที่ง่ายไม่ซับซ้อน เพราะเรามีความคุณเคยกับสินค้าหรือบริการนั้นๆอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรผิดปกติหรือมีการโกงกันเกิดขึ้นเราจะรู้โดยไม่ยากเย็น

แต่ถ้าอาชีพอื่นๆที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะล่ะครับ เราในฐานะคนนอกจะไม่มีทางรู้ได้เลย เช่นเวลารถเราเสียด้วยเหตุอะไรก็ตาม เรารู้แค่ว่ารถเครื่องมีปัญหา หรือแอร์ไม่เย็น หรือมีเสียงผิดปกติ สิ่งที่เราทำได้ก็คือเอารถไปเข้าอู่ เพื่อซ่อม ซึ่งช่างซ่อมรถจะเป็นผู้ช่วยเราในการวิเคราะห์ปัญหาและซ่อมรถ ซึ่งเขาต้องรู้มากกว่าเราอย่างแน่นอน ตรงนี้ก็สำคัญครับ จะเป็นอย่างไรถ้าช่างซ่อมรถไม่มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ของที่ยังไม่เสีย ก็บอกว่าเสีย หรือจริงๆซ่อมง่ายๆก็ทำให้ดูเป็นซ่อมยากๆไว้ จะได้เงินเยอะๆ เราก็ลำบากใช่ไหมครับ

สมัยก่อนผมยังจำได้ มีหลายครั้งเวลาไปธนาคาร จะเห็นพนักงานธนาคารแนะนำคุณลุงคุณป้าแก่ๆที่มาขอเปิดบัญชี ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร มีความจริงใจว่า บัญชีไหมเหมาะกับคุณลุงคุณป้ามากกว่ากัน ฝากประจำกี่เดือนดี . . . → Read More: ธรรมะแห่งอาชีพ